เทรดตลาดต่างประเทศ

เทรดหุ้นไทย

เทรดอนุพันธ์

โครงการ EJIP

แพลตฟอร์มการเทรด

ลงทุนในหุ้น

กองทุนรวม

กองทุนส่วนบุคคล

หุ้นกู้

แบบประกันคุ้มครองความเสี่ยง

ลงทุนในกองทุน

บทความด้านการลงทุน

อัปเดตจากบริษัทฯ

ข่าวสารนักลงทุน

บทความและข่าวสาร

ผลิตภัณฑ์น่าสนใจ

คอร์สเรียนน่าสนใจ

วางแผนการลงทุน

Footer Menu

องค์กร

บริการวาณิชธนกิจ

Fair Dealing Policy

คำถามที่พบบ่อย

เกี่ยวกับบริษัทฯ

เทรดหุ้นต่างประเทศ

เทรดอนุพันธ์ต่างประเทศ

ตำแหน่งที่รับสมัคร

รับสมัครตัวแทนอิสระ (IFA และ IIA)

ร่วมงานกับเรา

Header Menu

Update: Article Tag

Articles

Freedom Blue 100

{tag}

Update

ปกคอนเท้น-CME-x.jpg

<h3>ค้นพบโอกาส ลงทุนในสหรัฐ ผ่าน 3 ดัชนีใหญ่ Dow Jones, Nasdaq 100, S&amp;P 500 เสริมความมั่งคั่ง - กระจายความเสี่ยง เพิ่มผลตอบแทน ผ่านการลงทุน Index Future ในตลาดอันดับ 1 ของโลก &nbsp;</h3>เปิดโอกาสขยายการลงทุน สร้างผลตอบแทนนอกประเทศไทย&nbsp; ผ่านสหรัฐอเมริกา ประเทศอันดับ 1 ของตลาดเงินตลาดทุน ซึ่งเปรียบเสมือนขุมทรัพย์ที่รอให้นักลงทุนเช่นคุณเข้ามาคว้าโอกาส หลายคนอาจคุ้นเคยกับการลงทุนในหุ้นไทย แต่การลองขยายการ ลงทุนในสหรัฐฯ นั้นเต็มไปด้วยข้อดีและความน่าสนใจมากมาย &nbsp;<h4>ทำไมต้อง ลงทุนในสหรัฐ ? &nbsp;</h4>โอกาส : ด้วยความที่สหรัฐอเมริกา มีขนาดเศรษฐกิจเป็นอันดับ 1 ของโลก ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามไปด้วย ตลาดหุ้นแห่งนี้เต็มไปด้วยบริษัทชั้นนำระดับโลกหลากหลายประเภท อาทิ เทคโนโลยี พลังงาน การเงิน ซึ่งมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจ และวิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลก และตลาดหุ้นสหรัฐฯ พร้อมเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต และคว้าผลตอบแทนที่น่าทึ่ง ขนาดเศรษฐกิจ : เศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่จะช่วยลดความผันผวนของการลงทุน นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยตัวเลือกหุ้นที่หลากหลาย ซึ่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีสภาพคล่องสูง ซื้อขายสะดวก หาผู้ซื้อ-ผู้ขายได้ง่าย นักลงทุนสามารถเข้าซื้อ-ขายหุ้นได้อย่างรวดเร็ว การเติบโต : เศรษฐกิจและเทคโนโลยีของสหรัฐฯ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง การเป็นประเทศที่มีนวัตกรรมสูง เปิดโอกาสให้บริษัทเติบโต ส่งผลดีต่อผลตอบแทนของนักลงทุนในระยะยาว สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้การหุ้นสหรัฐฯ ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยในระดับที่ดีและมั่นคง &nbsp;<h4>ลงทุนในสหรัฐ ผ่าน 3 ดัชนี เสริมแกร่งพอร์ตของคุณ &nbsp;</h4>โดยสิ่งที่ชี้วัดการเติบโตของหุ้นสหรัฐฯ ได้ดีและเป็นที่ยอมรับมากคือ “ดัชนีหุ้นสหรัฐ” อันเป็นตัวเลขที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มและทิศทางของมูลค่าราคาตลาดหุ้น &nbsp;ซึ่งในสหรัฐฯ มี 3 ดัชนีหุ้นหลัก ซึ่งมีความแตกต่างกันตามสไตล์และจุดประสงค์ของนักลงทุนดังนี้ &nbsp;Dow Jones: ดัชนีที่เก่าแก่ คาดหวังกำไรได้อย่าง “มั่นคง” &nbsp; Dow Jones เป็นดัชนีตลาดหุ้นในอเมริกาที่มีอายุมายาวนานกว่า 100 ปี คำนวนจากหุ้น ‘Bluechip’ หรือหุ้นของบริษัทใหญ่ที่สุด 30 บริษัท คัดจากตลาดซื้อขายหุ้น NYSE และ NASDAQ โดยดัชนีนี้เป็นที่นิยมเนื่องจากมีการเคลื่อนไหวและเติบโตมาโดยตลอด โดย ดัชนี Dow Jones เป็นตัวบ่งชี้สภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทุกกลุ่ม รวมถึงเศรษฐกิจโลก จึงเป็นดัชนีที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก และเป็นตัวบ่งบอกสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทุกกลุ่ม รวมไปถึง “เศรษฐกิจของโลก” นักลงทุนสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการทำกำไรได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว &nbsp;Nasdaq 100: ดัชนีของบริษัทยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี มีดีที่ “การเติบโต” Nasdaq 100 เป็นดัชนีขายหุ้นของสหรัฐอเมริกา โดยมีบริษัทดังๆ ที่นักลงทุนรู้จักในดัชนี Nasdaq 100 เช่น Apple Inc. (AAPL), Microsoft Corporation (MSFT), Tesla (TSLA) และ Facebook Inc.(FC) อีกทั้งเป็นดัชนีที่มีความสำคัญและให้ผลตอบแทนโดดเด่นในระยะที่ผ่านมาเนื่องจากการเติบโตในการใช้งานเทคโนโลยีของประชากรโลก เราจึงมองเห็นโอกาสผลตอบแทนของดัชนี Nasdaq 100 จากกบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี ที่มีการเติบโตย่างต่อเนื่อง&nbsp;S&amp;P 500 เป็นดัชนีชี้วัดชั้นนำของเศรษฐกิจโลก เพราะเป็นดัชนีที่รวมบริษัทในสหรัฐฯ ชั้นนำจำนวน 500 แห่ง เป็นตัวแทนกว่า 80% ของบริษัทจัดทะเบียนทั้งหมดของสหรัฐอเมริกา จึงถือเป็นมาตรวัดตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดีที่สุด โดยคิดตามบริษัทขนาดใหญ่ 500 บริษัทที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ มีสภาพคล่องสูง &nbsp;แม้ว่าดัชนี Dow Jones จะเป็นดัชนีที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด แต่นักลงทุนมักจะมองไปที่ S&amp;P 500 เมื่อต้องการประเมินว่าตลาดโดยรวมเป็นอย่างไร ดังนั้นดัชนี S&amp;P 500 นี้จึงถือเป็นดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐฯ &nbsp;<h4>เลือก ลงทุนหุ้นสหรัฐฯ ผ่านดัชนีหุ้นได้ง่ายๆ ด้วย Index Future</h4>นักลงทุนส่วนใหญ่ที่ลงทุนใน Index Future หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนีหุ้น มักจะเข้ามาเพื่อเก็งกำไรจากความผันผวนของดัชนี อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังสามารถถือสัญญาซื้อขาย Index Future เพื่อ "ประกันความเสี่ยง" ของพอร์ตต่างประเทศได้เช่นกัน กล่าวได้ว่าหากนักลงทุนมีการถือหุ้นต่างประเทศและกังวลว่าราคาจะตก นักลงทุนจะทำการ Short Future Index หรือทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนีในอนาคต ซึ่งหากราคาดัชนีลดลง นักลงทุนจะได้กำไรจากการ Short นี้ และกำไรดังกล่าวจะช่วยชดเชยการขาดทุนจากการที่ราคาหุ้นตกได้ &nbsp;ซึ่งคุณสามารถเข้าถึงการเทรด Index Future ง่ายๆ ผ่านตลาด CME หรือ Chicago Mercantile Exchange อันเป็นตลาดซื้อขายอนุพันธ์ทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา และเป็นหนึ่งในตลาดอนุพันธ์ที่สำคัญที่สุดในโลก &nbsp;มีปริมาณการซื้อขายและสภาพคล่องที่สูง และชั่วโมงการซื้อขายที่ยาวต่อเนื่องเกือบ 24 ชั่วโมง&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;<figure class="table"><table><tbody><tr><td style="background-color:#E0EDFF;">นักลงทุนสามารถติดต่อ บริษัท หลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน บริษัทในเครือของกลุ่ม PhillipCapital ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทการเงินและการลงทุนจากสิงคโปร์ที่เชี่ยวชาญด้านการลงทุนต่างประเทศมากว่า 50 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 มีทรัพย์สินการลงทุนรวมทั่วโลกกว่า 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ดำเนินธุรกิจในไทยนานมากกว่า 26 ปี มีลูกค้ามากกว่า 1 ล้านบัญชีทั่วโลก ดูแลคุณได้เหนือกว่าด้วยเจ้าหน้าที่คนไทยที่คอยดูแลนักลงทุนตลอด 24 ชั่วโมง&nbsp;&nbsp;สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและโปรโมชันของผลิตภัณฑ์ได้ที่หน้าเว็บไซต์ <a href="https://www.phillip.co.th/th/global/futures" target="_blank">คลิกที่นี่</a>&nbsp;หรือขอคำแนะนำจากแผนก Phillip Global Markets ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02 153 9277 หรือ Line: <a href="https://page.line.me/kfa6682v?openQrModal=true" target="_blank">@phillipglobal</a>&nbsp;</td></tr></tbody></table></figure>&nbsp;อย่างไรก็ตาม แม้การลงทุนในอนุพันธ์จะมีความเสี่ยงสูง แต่การลงทุนในตลาดอนุพันธ์ต่างประเทศยังมีความน่าสนใจ &nbsp;และเป็นการกระจายความเสี่ยงออกจากตลาดในประเทศได้เป็นอย่างดี ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้าและประเมินความเสี่ยงก่อนลงทุน&nbsp;&nbsp;

ปกคอนเท้น-CME-.jpg

เปิดโอกาสขยายการลงทุน สร้างผลตอบแทนนอกประเทศไทย  ผ่านสหรัฐอเมริกา ประเทศอันดับ 1 ของตลาดเงินตลาดทุน ซึ่งเปรียบเสมือนขุมทรัพย์ที่รอให้นักลงทุนเช่นคุณเข้ามาคว้าโอกาส หลายคนอาจคุ้นเคยกับการลงทุนในหุ้นไทย แต่การลองขยายการ ลงทุนในสหรัฐฯ นั้นเต็มไปด้วยข้อดีและความน่าสนใจมากมาย

GlobalCME

เปิดโอกาส ลงทุนในสหรัฐ ผ่านตลาด CME ผลตอบแทนดีที่ไม่ควรพลาด 

Advice

คุณยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณและยอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวข้อกำหนดและเงื่อนไขของหลักทรัพย์ฟิลลิป