ตลาดต่างประเทศ

หุ้นไทย

อนุพันธ์

หุ้นกู้

โครงการ EJIP

แพลตฟอร์มการเทรด

ลงทุนในหุ้น

กองทุนรวม

กองทุนส่วนบุคคล

กองทุนลดหย่อนภาษี

แบบประกันคุ้มครองความเสี่ยง

ลงทุนในกองทุน

บทความด้านการลงทุน

อัปเดตจากบริษัทฯ

ข่าวสารนักลงทุน

บทความและข่าวสาร

หุ้น

หุ้นต่างประเทศ

กองทุน

บทวิเคราะห์

ผลิตภัณฑ์น่าสนใจ

คอร์สเรียนน่าสนใจ

วางแผนลดหย่อนภาษีสำหรับคนรักสัตว์

วางแผนการลงทุน

Footer Menu

องค์กร

บริการวาณิชธนกิจ

Fair Dealing Policy

คำถามที่พบบ่อย

รับสมัครตัวแทนอิสระ (IFA)

รับสมัครตัวแทนอิสระ (IIA)

เกี่ยวกับบริษัทฯ

Aw-Dreams 6 ver downlond-07.png

Pocket

Header Menu

Update Details

ลงทุนในหุ้นแล้ว ควรลงทุนใน TFEX ด้วยดีไหม ? | PhillipCapital

Home

Update

{type}

{title}

8 Banner.png

<h3 style="text-align:center;"><span style="color:#002E6E;"><strong>สนใจลงทุนหุ้นต่างประเทศ กับ Phillip Global Markets</strong></span></h3><p style="text-align:center;">&nbsp;</p><div class="raw-html-embed"><div class="text-center">
<div class="inline-block">
<a href="/{locale}/global/stocks" class="btn btn-long-lg-fill">
<h6>ดูรายละเอียดเพิ่มเติม</h6>
</a>
</div>
</div></div>

Phillip Global Market

<h2><strong>ลงทุน TFEX ดีไหม รู้จักเครื่องมือเสริมแกร่งพอร์ตหุ้นของคุณ</strong></h2><p>&nbsp;</p><h3><strong>เมื่อลงทุนในหุ้นแล้ว ลงทุน TFEX ด้วยดีไหม ?</strong></h3><p>สวัสดีครับ วันนี้ PhillipCapital จะพาทุกท่านสำรวจว่า "ลงทุน TFEX ดีไหม" และทำความรู้จักกับสินค้าใน TFEX ครับ</p><p>&nbsp;</p><h3><strong>ความท้าทายของการลงทุนในตลาดหุ้นเพียงอย่างเดียว</strong></h3><p>นักลงทุนที่อยู่ในตลาดหุ้นมาสักระยะ คงคุ้นเคยกับการทำกำไรโดยการ "ซื้อถูก ขายแพง" (Buy Low, Sell High) โดยซื้อที่ราคาถูกและไปขายในราคาที่สูงกว่า เพื่อที่จะทำให้ได้การทำกำไรจากผลต่างของราคา แต่ในทางกลับกัน หลายท่านก็คงเคยประสบปัญหาเวลาตลาดหุ้นปรับฐานลงมา หุ้นในพอร์ตแดงยกแผง หรือ การเกิดวิกฤตต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ล่าสุดที่เราเพิ่งเผชิญกันมาอย่างการแพร่ระบาดของ COVID-19 ก็ทำให้หุ้นทั้งโลกปรับตัวลง ซึ่งพอร์ตหุ้นของเราก็หนีไม่พ้นจากวิกฤตดังกล่าว นี่จึงเป็นจุดที่ทำให้นักลงทุนจำนวนมากเริ่มตั้งคำถามว่า ควรมีเครื่องมืออื่นมาช่วยบริหารพอร์ตหรือไม่ และ "ลงทุน TFEX ดีไหม" ก็กลายเป็นคำถามที่น่าสนใจขึ้นมาทันที</p><p>&nbsp;</p><p>คำตอบคือ "ใช่" ครับ หากเรามีทั้งพอร์ตหุ้นและพอร์ต TFEX เราจะสามารถบริหารความเสี่ยงและลดผลกระทบจากตลาดขาลงได้ดีขึ้น อีกทั้งยังสามารถสร้างโอกาสทำกำไรจากสภาวะตลาดขาลงได้อีกด้วย น่าสนใจขึ้นแล้วใช่ไหมครับ? เรามาทำความรู้จัก TFEX ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกันเลย</p><p>&nbsp;</p><h2><strong>ทำความรู้จักกับ TFEX และประเภทของสินค้า</strong></h2><p>&nbsp;</p><p>TFEX หรือ ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (Thailand Futures Exchange) เป็นตลาดที่ซื้อขาย "อนุพันธ์" (Derivatives) โดยมีสินค้าหลัก 2 ประเภท คือ Futures และ Options</p><p>&nbsp;</p><h3><strong>ฟิวเจอร์ส (Futures) หรือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า</strong></h3><p>ฟิวเจอร์ส คือ สัญญาที่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกันว่าจะซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิง (เช่น ดัชนี SET50, ทองคำ, หรือหุ้นรายตัว) ในราคาที่กำหนดไว้ ณ วันนี้ แต่จะทำการส่งมอบและชำระราคากันในอนาคต การซื้อขาย Futures จึงเปรียบเสมือนการซื้อขาย "สิทธิ์" ในสินทรัพย์นั้นๆ โดยไม่ต้องใช้เงินเต็มจำนวนเพื่อซื้อสินทรัพย์จริง</p><p>&nbsp;</p><h3><strong>ออปชัน (Options) หรือ สัญญาสิทธิ</strong></h3><p><strong>ออปชัน คือ สัญญาที่ให้ "สิทธิ" แต่ไม่ใช่ "ภาระผูกพัน"</strong> แก่ผู้ซื้อในการที่จะซื้อ (Call Option) หรือขาย (Put Option) สินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่ตกลงกันไว้ (Strike Price) ภายในระยะเวลาที่กำหนด</p><p><strong>ผู้ซื้อออปชัน (Long Call/Put)</strong>: จ่ายเงินค่าสัญญาที่เรียกว่า "ค่าพรีเมียม" (Premium) ซึ่งถือเป็นต้นทุนและความเสี่ยงสูงสุดของผู้ซื้อ หากราคาสินทรัพย์ไม่เป็นไปตามที่คาด ก็แค่ไม่ใช้สิทธิ และจะเสียเพียงค่าพรีเมียมที่จ่ายไป</p><p><strong>ผู้ขายออปชัน (Short Call/Put):</strong> เป็นผู้ได้รับค่าพรีเมียม แต่มี "ภาระผูกพัน" ที่ต้องทำตามสัญญาหากผู้ซื้อต้องการใช้สิทธิ จึงมีความเสี่ยงขาดทุนไม่จำกัดและจำเป็นต้องวางหลักประกัน (Margin)</p><p>&nbsp;</p><h2><strong>ข้อดีของการลงทุนใน Futures</strong></h2><p>&nbsp;</p><p>เพื่อตอบข้อสงสัยว่า <a href="https://www.phillip.co.th/th/derivatives/tfex" target="_blank"><strong>ลงทุน TFEX ดีไหม</strong></a> เสน่ห์สำคัญของการซื้อขาย Futures คือการใช้ "อัตราทด" หรือ Leverage ซึ่งทำให้นักลงทุนสามารถเปิดสถานะการลงทุนที่มีมูลค่าสูงได้โดยใช้เงินลงทุนเริ่มต้นที่น้อยกว่าการซื้อหุ้นโดยตรง เงินลงทุนเริ่มต้นนี้เรียกว่า "เงินประกัน" (Margin) ไม่ใช่เงินค่าซื้อสินทรัพย์ครับ</p><p>&nbsp;</p><p>เพื่อให้เห็นภาพ สมมติว่าเราต้องการลงทุนในหุ้น A ซึ่งปัจจุบันราคาหุ้นละ 50 บาท</p><p>&nbsp;</p><ul><li><strong>ถ้าซื้อหุ้นโดยตรง:</strong> ด้วยเงิน 50,000 บาท เราจะซื้อหุ้น A ได้ 1,000 หุ้น (50,000 / 50)<br>&nbsp;</li><li><strong>ถ้าลงทุนใน Single Stock Futures ของหุ้น A:</strong> สมมติว่า 1 สัญญา Futures มีขนาดเท่ากับ 1,000 หุ้น และโบรกเกอร์กำหนดให้วางเงินประกันขั้นต้น (Initial Margin) สัญญาละ 5,000 บาท ด้วยเงิน 50,000 บาท เราจะสามารถเปิดสถานะ Futures ได้ถึง 10 สัญญา ซึ่งเทียบเท่ากับการลงทุนในหุ้น A ถึง 10,000 หุ้น (10 สัญญา x 1,000 หุ้น/สัญญา)</li></ul><p>&nbsp;</p><p>จะเห็นว่าด้วยเงินจำนวนเท่ากัน การลงทุนใน Futures ทำให้เราสามารถสร้างผลตอบแทนจากหุ้นจำนวนมากกว่าได้ถึง 10 เท่า นี่คือข้อดีของ Leverage ครับ ซึ่งถ้าเราคาดการณ์ได้ถูกทาง ก็สามารถสร้างกำไรได้มากถึง 10 เท่า ในทางกลับกันถ้าหากผิดทางก็มีโอกาสขาดทุนมากเช่นกัน</p><p>&nbsp;</p><p>อย่างไรก็ตาม Leverage ก็เปรียบเสมือนดาบสองคม ในเมื่อมันสามารถขยายผลกำไรได้ มันก็สามารถขยายผลขาดทุนได้เช่นกัน หากคาดการณ์ผิดทาง ผลขาดทุนที่เกิดขึ้นอาจสูงกว่าเงินประกันเริ่มต้นที่วางไว้ได้ และนักลงทุนอาจถูกเรียกให้วางเงินประกันเพิ่ม (Margin Call) ดังนั้น การบริหารความเสี่ยงจึงเป็นหัวใจสำคัญที่สุดในการลงทุน TFEX</p><p>&nbsp;</p><h2><strong>กลยุทธ์การลงทุนใน Futures</strong></h2><p>โดยการเข้าซื้อขายสัญญา Futures เราสามารถแบ่งเป็น 2 สถานะแบบนี้ ครับ Long และ Short</p><p>&nbsp;</p><h3><strong>การถือสถานะ Long</strong></h3><p>การ Long Futures คือการเปิดสถานะ "ซื้อ" โดยคาดว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต จากตัวอย่างเดิม หากเรา Long Futures หุ้น A ไว้ 10 สัญญา (เทียบเท่า 10,000 หุ้น) และราคาหุ้น A ปรับตัวขึ้นจาก 50 บาท เป็น 52 บาท (เพิ่มขึ้น 2 บาท)</p><p><strong>กำไรจากการ Long Futures:</strong> จะเท่ากับ 2 บาท x 10,000 หุ้น = 20,000 บาท</p><p>เทียบกับซื้อหุ้นตรง: หากเราใช้เงิน 50,000 บาทซื้อหุ้น A ที่ราคา 50 บาท จะได้ 1,000 หุ้น เมื่อราคาขึ้นไปที่ 52 บาท จะได้กำไร 2 บาท x 1,000 หุ้น = 2,000 บาท</p><p>(ทั้งสองกรณียังไม่หักค่าธรรมเนียมการซื้อขาย)</p><p>&nbsp;</p><h3><strong>การถือสถานะ Short</strong></h3><p>การ Short Futures คือการเปิดสถานะ "ขาย" โดยคาดว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนในหุ้นเพียงอย่างเดียวทำไม่ได้ หากเราคาดว่าหุ้น A จะปรับตัวลง จึงเปิดสถานะ Short Futures หุ้น A ไว้ 10 สัญญาที่ราคา 50 บาท ต่อมาหุ้น A ปรับตัวลงไปที่ราคา 39 บาทจริง (ลดลง 11 บาท)</p><p>&nbsp;</p><p><strong>กำไรจากการ Short Futures:</strong> จะเท่ากับ 11 บาท x 10,000 หุ้น = 110,000 บาท</p><p>&nbsp;</p><p>กำไรส่วนนี้สามารถนำไปชดเชยผลขาดทุนของหุ้น A ที่เรามีอยู่ในพอร์ตได้ หรือใช้เป็นการเก็งกำไรในภาวะตลาดขาลงโดยเฉพาะก็ได้เช่นกัน</p><p>&nbsp;</p><p>ลองจินตนาการว่าคุณมีหุ้น A อยู่ในพอร์ตลงทุนมูลค่า 500,000 บาท (10,000 หุ้น ที่ราคา 50 บาท) และคุณกังวลว่าตลาดจะปรับตัวลง เมื่อราคาหุ้น A ลดลงเหลือ 39 บาท พอร์ตหุ้นของคุณจะขาดทุน 110,000 บาท แต่ในขณะเดียวกัน การเปิดสถานะ Short Futures ของคุณทำกำไรได้ 110,000 บาทพอดี กำไรจาก TFEX จึงเข้ามาช่วยลดผลกระทบจากผลขาดทุนในพอร์ตหุ้นได้ นี่คือตัวอย่างของการใช้ TFEX เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ให้กับพอร์ตลงทุนหลัก</p><p>&nbsp;</p><p>มาถึงตรงนี้ เพื่อน ๆ พอจะเห็นข้อดีของ<a href="https://www.phillip.co.th/th/derivatives/tfex" target="_blank"><strong>ตลาด TFEX</strong></a> กันแล้วใช่หรือไม่ครับ อย่างไรก็ดี ตลาด TFEX ก็มีความเสี่ยงจากตัวของ Leverage หรือ จำนวนเท่า สำหรับเพื่อน ๆ ที่เป็นมือใหม่ ผมอยากแนะนำให้ศึกษาให้ดีก่อนเริ่มเข้าสนามลงทุนจริง ซึ่งที่หลักทรัพย์ฟิลลิป จะมีอบรมออนไลน์เกี่ยวกับการเทรด TFEX เป็นประจำอยู่แล้ว และเรามีเจ้าหน้าที่คอยดูและให้คำแนะนำท่านได้เสมอ</p>

8 Cover.png

ลงทุน TFEX ดีไหม ทำความรู้จักตลาด TFEX และวิธีใช้เป็นเครื่องมือเสริมการลงทุนในหุ้น เรียนรู้กลยุทธ์ Long-Short เพื่อรับมือทุกสถานการณ์ตลาด

why-should-you-invest-in-newTFEX

Advice

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

DCA-cov-05_860_990_0.jpg

เรียนรู้วิธีออมหุ้นและกองทุนด้วยกลยุทธ์ DCA เพื่อสร้างวินัยและลดความเสี่ยง ถอดบทเรียนจาก Warren Buffett และนักลงทุนระดับตำนาน ค้นหาคำตอบได้ที่นี่

ถอดรหัสมุมมองการลงทุนแบบ DCA ผ่านคำแนะนำของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เซียนหุ้นระดับโลก 

businessman-points-sign-that-says-600nw-2583277509.webp

การแจ้งความประสงค์และยินยอมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นำส่งข้อมูลการลงทุนในกองทุน RMF/SSF ให้กรมสรรพากรเพื่อลดหย่อนภาษี (Tax Consent) สำหรับลูกค้าที่ซื้อกองทุน RMF/SSF ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป

ช่องทางแจ้งความประสงค์สำหรับลูกค้าที่ซื้อกองทุน RMF/ThaiESG/ThaiESGX

Knowledge

proptrade-banner860x660.jpg

10 ปีแห่งความสำเร็จ Phillip Prop Trader Academy: จุดเริ่มต้นของมืออาชีพสายเทรด ที่เติบโตไปพร้อมตลาดทุนไทย
PhillipCapital สร้างพื้นที่ที่นักเทรดรุ่นใหม่จะได้ฝึกฝน คิดอย่างนักลงทุน และเทรดอย่างมืออาชีพ พร้อมก้าวสู่อนาคตของตลาดทุนไทยอย่างมั่นคง

10 ปีแห่งความสำเร็จ Phillip Prop Trader Academy: จุดเริ่มต้นของมืออาชีพสายเทรด ที่เติบโตไปพร้อมตลาดทุนไทย

protrade2025-960x1200-v1-banner2081-608.jpg

protrade2025-960x1200-v1-banner860x660.jpg

Proprietary Trader หรือ Prop Trader คือ “นักเทรด” ที่ซื้อขายในตลาดการเงินโดยใช้ “เงินทุนของบริษัท”  เมื่อคุณก้าวเข้าสู่การเป็น Prop Trader บริษัทจะจัดสรรทุนให้บริหารผ่านการเทรด พร้อมได้รับ เงินเดือนประจำ ควบคู่กับ “ส่วนแบ่งกำไร” จากการเทรดของ Prop Trader ซึ่ง ทำให้มี “รายได้สองทาง”  

สร้างคุณสู่ Prop Trader มืออาชีพ กับโครงการ  PHILLIP PROP TRADER ACADEMY 2025 ปีที่ 10 -  A Decade of Dedication เปิดรับสมัครแล้ววันนี้

Untitled design-2.png

Untitled design.png

ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนปรับปรุงและพัฒนาตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ

DR ขยายเวลาซื้อ-ขาย เทรดได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

thumbnail.jpg

เข้าสู่ช่วงปลายปี คำถามสำคัญคือ “RMF กองไหนดี 2568” เพื่อวางแผนภาษีให้ดีที่สุด แคมเปญ “Smart Tax, Smart Invest” จาก บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) พร้อมมอบ กลยุทธ์จัดพอร์ตลดหย่อนภาษี ที่จะช่วยให้คุณค้นพบ “พอร์ตที่ใช่สำหรับคุณ“ ได้อย่างแท้จริง… ก่อนตัดสินใจลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี เช่น RMF หรือ SSF ควรศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบกองทุนลดหย่อนภาษีแต่ละประเภท และเลือกให้เหมาะกับเป้าหมายการลงทุนของคุณ

SMART TAX SMART INVEST ลดหย่อนภาษีแบบมือโปร ด้วยพอร์ตที่ใช่สำหรับคุณ